อีกไม่กี่วัน ปีใหม่ 2568 ก็จะมาต้อนรับเพื่อนๆ และนำพาไปพบกับความสุขความสำเร็จที่มากขึ้น แต่รู้หรือไม่คะ? ในอดีตวันขึ้นปีใหม่ของไทย ไม่ใช่วันที่ 1 มกราคมน้า แต่จะตรงกับวันไหนนั้น ตามไปดูกันเลย แอดจะพาทุกคนย้อนมาดูประวัติความเป็นมาของวันปีใหม่ทั้งของไทยและสากลกันค่า

อ้อ..สำหรับใครที่อยากได้ขนมอร่อยเกรดพรีเมียม หรือของขวัญปีใหม่ในแพ็กเกจน่ารักสุดจึ้ง ก็แวะไปซื้อได้ที่ร้าน kanom ทุกสาขา หรือสั่งออนไลน์ก็ได้นะคะ 

 ความหมายของวันขึ้นปีใหม่
ก่อนอื่นเรามาดูความหมายของ “วันขึ้นปีใหม่” กันค่ะ โดยความหมายตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายคำว่า “ปี” หมายถึง เวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ครั้งหนึ่งเป็นระยะเวลา 12 เดือน หรือราว ๆ 365 วัน ตามสุริยคติ ดังนั้น “ปีใหม่” จึงหมายถึง การขึ้นรอบใหม่หลังจาก 1 ปี หรือ 12 เดือน นั่นเองค่ะ

 ประวัติวันขึ้นปีใหม่สากล
ถ้าอยากรู้ว่า “วันปีใหม่” มีที่มาที่ไปอย่างไร เราต้องเริ่มต้นจากการทำปฏิทินของชาวบาบิโลเนียเลยค่ะ โดยสมัยนั้นชาวบาบิโลนเนียจะอาศัยระยะต่าง ๆ ของดวงจันทร์เป็นหลักในการนับ เมื่อครบ 12 เดือน ก็กำหนดให้นับเป็นระยะเวลา 1 ปี และเพื่อให้เกิดความพอดีกันในระหว่างการนับปีตามปฏิทินกับปีตามฤดูกาล จึงได้เพิ่มจำนวนเดือนอีก 1 เดือน รวมเป็น 13 เดือน ในทุก ๆ 4 ปี
ต่อมาชาวอียิปต์ ชาวกรีก และชาวเซมิติก ได้นำมาดัดแปลงเพื่อให้ตรงกับฤดูกาลมากยิ่งขึ้น จนมาถึงสมัยของกษัตริย์จูเลียต ซีซาร์ ก็ได้นำความคิดของนักดาราศาสตร์ชาวอียิปต์ที่ชื่อว่า “โยซิเยนิส” มาปรับปรุงแก้ไขอีกครั้งให้เป็น 1 ปี มี 365 วัน โดยทุก ๆ 4 ปี ให้เพิ่มวันในเดือนกุมภาพันธ์ ขึ้นอีก 1 วัน เป็น 29 วัน
และในวันที่ 21 มีนาคม ตามปีปฏิทินของทุก ๆ ปี จะเป็นช่วงเวลาที่มีกลางวันและกลางคืนที่เท่ากัน ก็หมายถึงเป็นวันที่พระอาทิตย์จะขึ้นตรงทิศตะวันออก และลับลงตามทิศตะวันตก ซึ่งวันนี้ทั่วโลกจึงมีช่วงเวลาเท่ากับ 12 ชั่วโมงเท่ากัน หรือเรียกว่า วันทิวาราตรีเสมอภาคมีนาคม (Equinox in March)
เมื่อปี พ.ศ. 2125 วัน Equinox in March ได้กลับไปเกิดขึ้นในวันที่ 11 มีนาคม แทนที่จะเป็นวันที่ 21 มีนาคม จึงทำให้พระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่ 13 ได้ทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขโดยได้หักวันออกไปอีก 10 วัน จากปีปฏิทิน และให้วันหลังจากวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2125 แทนที่จะเป็นวันที่ 5 ตุลาคม ก็ให้เปลี่ยนมาเป็นวันที่ 15 ตุลาคมแทน ซึ่งจะใช้เฉพาะในปี พ.ศ. 2125 เท่านั้น ปฏิทินแบบใหม่นี้จึงเรียกว่าปฏิทินเกรกอเรียน ต่อมาก็ได้ปรับปรุงแก้ไขพร้อมประกาศใช้วันที่ 1 มกราคมของทุกปี ให้เป็นวันเริ่มต้นของปีเป็นต้นมา

ประวัติวันขึ้นปีใหม่ของไทย
สำหรับวันปีใหม่ของไทย ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง ตามปฏิทินการเปลี่ยนแปลงนักษัตร และเดือนตามจันทรคติ
-ครั้งแรก กำหนดให้วันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย ให้เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งตรงกับเดือนมกราคม
-ครั้งที่ 2 กำหนดให้วันขึ้นปีใหม่ไทย ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ตามคติพราหมณ์ ซึ่งตรงกับเดือนเมษายน
-ครั้งที่ 3 วันขึ้นปีใหม่ไทยได้ถือเอาทางจันทรคติเป็นหลัก และต่อมาก็ได้เอาทางสุริยคติแทน จึงได้กำหนดให้วันที่ 1 เมษายนของทุกปี เป็นวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.2432 เป็นต้นมา
-ครั้งที่ 4 ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย จึงเปลี่ยนแปลงวันขึ้นปีใหม่อีกครั้ง โดยกำหนดให้เป็นวันที่ 1 มกราคม 2484 เป็นวันปีใหม่เป็นต้นมา

- วันขึ้นปีใหม่ของไทยตรงกับวันอะไร?
วันปีใหม่ไทยและสากล ปัจจุบันตรงกับวันที่ 1 มกราคมของทุกปี และยังเป็นวันหยุดทั่วโลกอีกด้วย

-วันปีใหม่มีความสําคัญอย่างไร?
- การเริ่มต้นปีใหม่ของทุกปี ถือเป็นโอกาสดีที่ทุกคนจะได้วางแผนและเป้าหมายชีวิตในปีต่อ ๆ ไป
- เป็นโอกาสที่ดีในการมอบกระเช้าปีใหม่ หรือมอบขนมอร่อยๆ เพื่อเป็นของขวัญให้กับผู้ใหญ่และคนที่รัก
- เป็นวันที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา และมีความสุขร่วมกัน

- กิจกรรมวันปีใหม่มีอะไรที่น่าสนใจ?
วันปีใหม่ เป็นช่วงวันหยุดยาวหลายวัน ทำให้มีหลายกิจกรรมได้รับความนิยม อาทิ
- สวดมนต์ข้ามปี ถือเป็นกิจกรรมของสายบุญ โดยจะนั่งสวดมนต์ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ธันวาคม ข้ามคืนไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม
- การทำความสะอาดบ้าน ถือเป็นความเชื่อในเรื่องของของฮวงจุ้ย ว่าถ้าบ้านสกปรก จะทำให้เงินทองไม่ไหลเข้าบ้าน
- การทำบุญตักบาตร ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของปี ด้วยการทำบุญใส่บาตร เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต
- กราบขอพรจากคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่ที่เคารพในวันขึ้นปีใหม่ เพื่อจะได้รับพรอันประเสริฐแก่ชีวิต
- เข้าร่วมพิธีกรรมแก้ปีชง ตามความเชื่อทางโหราศาสตร์ของจีน เพื่อให้เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา
- จัดงานรื่นเริงในหมู่เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง หรือสถานที่ต่าง ๆ เพื่อพบปะสังสรรค์
-ข มอบของขวัญปีใหม่ให้แก่กัน หรือมีการจัดกิจกรรมจับฉลากของขวัญปีใหม่เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดี อย่าง #ชุดของขวัญ จาก #kanom ที่ดีไซน์กล่องสุดเก๋ เท่ น่ารัก พร้อมอัดแน่นไปด้วยขนมอร่อยๆ เกรดพรีเมียม ที่มอบความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับไปเลย

ใครสนใจ #ชุดของขวัญ #kanom ช็อปได้เลยที่ร้าน kanom ทุกสาขา หรือสั่งออนไลน์ก็ได้นะ